EMCO(Emergency Claim Online) : การให้บริการผู้ป่วยกรณีอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน 3 กองทุน
นับเป็นอีกนโยบายระดับประเทศที่ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บจะได้รับสิทธิ์การรักษาอย่างเท่าเทียมในการรับการรักษาพยาบาล กรณีบาดเจ็บ - ฉุกเฉิน ... ข้อดีของโครงการชัดเจนว่าการเขารับการรักษาเร่งด่วนนั้นจำเป็นสำหรับชีวิตทุกคน ไม่ว่าจะ เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไต อีกสารพัดโรคที่ใครๆก็ไม่อยากเป็น ตามภาษิตไทยที่ว่า "การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" ประเด็นอยู่ที่ว่า
ผู้รับบริการ(ขอเรียกผู้ปวยครับ) คนไทยทุกคนที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก จะมีสิทธิ์การรักษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 1 สิทธิ์ ภายใน 3 กองทุน นั่นก็คือ
1.บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองหรือบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ก็คือ อันเดียวกันครับแล้วแต่ใครจะเรียก สมัยแรกเริ่มเก็บค่าบริการ 30 บาทยกเว้นบางกรณี สมัยต่อมายกเลิกเก็บ และต่อมาอีกร่วมจ่าย 30 บาทบางกรณี ถ้าอธิบายจะยาวยืดเอาเป็นว่าถ้าอยากทราบข้อมูลละเอียดเข้าตามลิงค์นี้ครับ>>>www.nhso.go.th<<< มีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เป็นผู้ดูแลกองทุนนี้ แน่นอนว่าประชากรไทยส่วนใหญ่ ได้สิทธิ์นี้ครับเพราะถ้าไม่มีสิทธิ์ใดๆท่านจะได้รับโดยอัตโนมัติ** เพื่อนๆชาวต่างๆชาติจากอเมริกา ออสเตรเลีย จีน เค้าชมว่าระบบนี้ทำให้คนไทยมีสวัสดิการที่ครอบคลุมประชากรได้ครบถ้วน เมืองที่เจริญแล้วอย่างอเมริกา ออสเตรเลีย ยังทำไม่ได้เลย อันนี้เป็นความเห็นเพื่อนเค้าฝากมาครับ :)
2.ประกันสังคม กองทุนนี้คนทำงานภาครัฐที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ ภาคเอกชน หรืออื่นๆ ที่มีนายจ้าง จะได้สวัสดิการก็ต่อเมื่อเราส่งเงินสมทบกองทุนจากการหักเงินเดือนรายเดือนของเรา ตามกฎหมายหัก 7% ของเงินเดือน ย้ำจากฐานเงินเดือนนะครับแต่หักจากเงินเดือนได้ไม่เกิน 15,000 บาท ก็คือเงินเดือนน้อยกว่า 15,000 บาทก็คิด % เอา ส่วนใครเงินเดือนสูงหน่อยก็จ่ายไม่เกิน 750 ครับ ... ปี สอง ปี ที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ประกาศลดเงินสมทบให้ส่ง 3% บ้าง 4% บ้าง ตามสภาวะทางเศรษฐกิจ ... จริงๆเจ้านี้เค้ามีเงินเยอะมากครับ เนื่องมาจากประชากรไทยวัยทำงานมีจำนวน 42 ล้านคน อ้างอิงจาก >>http://www.ipsr.mahidol.ac.th/ipsr-th/population_thai.html<< จำนวนผู้ส่งเงินสมทบประมาณ บวกลบ 12 ล้านคน คิดเล่นๆ เฉลี่ยๆ ต่อหัว เอาตัวเลขกลมๆ 500 บาท ต่อหัวส่งเงินสบทบ ตกเดือนละ 6,000,000,000 .... แม่เจ้า!!! 6 พันล้านบาทต่อเดือน ..... แต่ก็มีเสียงบ่นจากผู้ประกันตนเป็นระยะว่าไม่เป็นธรรมบ้าง ไม่ได้รับความสะดวกบ้าง ทั้งๆที่เป็นกองทุนสวัสดิการเดียวที่ผู้ได้สิทธิ์ต้องจ่ายเงินตามกฎหมายซะด้วย...เฮ้อออ... คนหาเช้ากินค่ำอย่างผมก็อยู่ในกองทุนนี้เช่นกัน ....
3.สวัสดิการข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ เข้าตำราสิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเลี้ยง จริงอย่างโบราณว่า ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ จะได้รับสิทธิ์นี้เมื่อบรรจุรับราชการเผื่อแผ่ไปยังครอบครัวสายตรง พ่อ แม่ บุตร ภรรยา สามี ตามกฎหมายก็จะได้สิทธิ์จากท่านด้วย
นี่คือ 3 กองทุนที่กำลังกล่าวถึงครับ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2555 รัฐบาลประกาศใช้ EMCO โดยผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ทุกโรงพยาบาลโดยโรงพยาบาลไม่ต้องถามถึงสิทธิ์การรักษา ต้องให้การรักษาโดยประเมินตามเกณฑ์ที่ประกาศ เอาแบบเข้าใจง่ายๆ มีอยู่ 3 สีคือ เขียว เหลือง แดง รายละเอียดซึ่งผมว่าไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ลองศึกษาดูตามลิงค์ >>http://emco.nhso.go.th/<< น่ายินดีอย่างยิ่งคนไทยได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงอย่างทันท่วงที ฟังๆดูก็ไม่มีอะไรน่าอึดอัดเลยตามหัวข้อนิ...ฮ่าๆๆๆ ยังครับยังไม่จบ มีอีกนิดหน่อย
โรงพยาบาลภาครัฐทั้งหมด โรงพยาบาลภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการรับเงินสนับสนุนจาก สปสช.(โรงพยาบาล30บาท) สำนักงานประกันสังคม(สปส.) มีการบริหารจัดการทรัพยากร บุคลากรในการดูแลรักษาอย่างดีสามารถให้บริการได้อย่างครบถ้วนตามหลักวิชาการ ในประเทศไทยยังมีกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวออกจาก 3 กองทุนนี้โดยไม่ได้มีการรับเงินสนับสนุนใดๆจากภาครัฐ ต้องยอมรับว่าโรงพยาบาลเหล่านี้มุ่งสร้างมากกว่ามาตรฐานของตนเองให้โดดเด่นภายได้การบริหารจัดการทรัพยากร บุคลากรด้วยตนเอง จะว่าไปแล้วอย่างที่รู้ๆกันคือใครพอมีกำลัง หรือต้องการความสะดวกสบายที่มากกว่ามาตรฐานก็ไปใช้บริการกัน ... ในมุมมองผมเองไม่ได้มองว่าสิ่งนี้เกินเลยหรือแปลกแยกให้เกิดความแตกต่างหรือเหลื่อมล้ำทางสังคม ผู้ป่วยสิทธิ์ประกันสังคมก็รับบริการได้ บัตรทองก็ไปได้ หรือ ข้าราชการ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ให้คนไทยหรือชาวต่างชาติที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นในการเลือกบริการของโรงพยาบาลเอกชนเหล่านั้น ขอกล่าวถึงแต่ไม่ได้แอบอ้างพอให้ท่านได้จินตนาการถึง รพ.ที่ว่าแถวๆหรือไกล้ๆ ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 6 ถนนศรีนครินทร์ ถนนพหลโยธิน ถนนสาธร ถนนบางนา อีกมากมาย
เหล่านี้มุ่งมั่นสร้าง สรรหาวิทยาการใหม่ๆ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รูปแบบการบริการ อาคารสถานที่อำนวยความสะดวก สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับสากล เมื่อ EMCO ได้เริ่มโครงการทุกโรงพยาบาลก็ได้รับการเชิญให้เข้าร่วมโดยปริยาย...:) ดีสำหรับคนไทยจริงๆ อันนี้จากใจครับ ... ตามมาตรฐานการรักษาพยาบาลแล้วทุกโรงพยาบาลต้องให้บริการอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยชีวิตหรือช่วยให้การเจ็บป่วยนั้นบรรเทาเบาบางลงไป พ้นขีดอันตรายหรือพ้นความเสี่ยงต่อชีวิต ... ด้วยขีดความสามารถเต็มที่ที่มีรู้กันดีว่าโรงพยาบาลกลุ่มนี้ก็ขึ้นชื่ออยู่แล้ว ... อีกอย่างที่ขึ้นชื่อเหมือนกันคือค่าใช้จ่าย บางที่จะบอกว่าแพงเกิ๊น ก็ไม่ผิด ... แต่พอกลับมาคิดที่มาของราคา การมีอะไรที่แตกต่างของโรงพยาบาลเหล่านั้นเค้าสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงเค้าเองล้วนๆ ปราศจากการสนับสนุน... ในฐานะที่อยู่ในวงการ เคยเป็นทั้งผู้รับบริการ ผู้ร่วมให้บริการ เลยมีคำถามในใจตลอดมาว่า
มาดูขั้นตอนกันว่า Step เยอะขาดใหน
ผู้รับบริการเข้ารับบริการ ---> แพทย์,พยาบาล ให้การรักษาพยาบาล ---> ระหว่างนั้นก็ประเมินเกณฑ์ เขียว เหลือง แดง ไปด้วย ---> ผู้รับบริการ/ญาติจำนงค์ขอใช้สิทธิ์ 3 กองทุน ---> โรงพยาบาลส่งเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาลจาก 3 กองทุน ---> โรงพยาบาลรอลุ้นผ่าน/ไม่ผ่าน ---> กรณีผ่านรอจ่ายค่าชดเชย ไม่ผ่านก็ไม่ได้รับค่าชดเชย ---> ถ้าไม่ผ่านต้องยื่นอุทธรณ์ ---> กลับไปที่ สปสช.(อ้อลืมแจ้งไปครับ เค้าเป็น Clearing house) กลับไปกลับมา มีให้ตั้ง 3 รอบแน่ะครับ
เพื่อไม่ให้เคลียดเกินไป ยกตัวอย่างตามการ์ตูนนะครับ
.......................โรงพยาบาลเหล่านี้ ร่วมให้บริการ ใช้ทรัพยากรตัวเองทุกอย่าง บุคลากรตัวเองทุกกระบวนการ อำนวยความสะดวกผู้รับบริการทุกขั้นตอน จนกระทั่งสิ้นสุด .............. ผู้รับบริการเข้าใจก็ดีไปอันนี้ต้องขอขอบคุณท่านจริงๆ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ต่อว่า ด่า ขู่เข็ญ ร้องเรียน สารพัดวิธี ....... บางทีก็เข้าใจนะครับว่าเค้าก็ไม่รู้จะไปต่อว่าใคร เจอใครก่อนก็รับไป..... บางทีก็คิดนะท่านว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ .... เฮ้อออออ ... ไม่ไหวเลยหาทางออก ดังที่ท่านได้อ่านมานั่นแหละคร้าบ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น